Cr.คุณภัทรชัย
- Spectrometerเครื่องนี้เอง ก็ให้ guideline เราเรื่องสีประมาณนี้
- ด้านหลังคือ เม็ดสี ผลิตจาก เม็ด LED ที่สามารถ ผลิต สี เดี่ยวๆได้
ในภาพนี้ผลิต อยู่ 2 สี คือสีแดงกับสีม่วง น้ำเงิน หรือ คราม แล้วแต่ว่า ลูกกะตา ท่านใด จะมองเห็นเป็นสีอะไร
ตัวอักษรสีแดงด้านบนขวาของกราฟ เขียนว่า คลอโรฟิล B เป็นภาษาอังกฤษ
ดังนั้น เส้นๆนี้ยอกว่า คลอโรฟิล B ดูดกลืน สีที่อยูภายใต้เส้นนี้
จะดูดสีฟ้ามากกว่าสีแดง
ส่วนสีเขียว สีเหลือง ไม่เอาเลย ออกไปไกลๆ
นั่นก็คือ คลอโรฟิล b เอาเฉพาะ สีฟ้า กับสีแดง ไม่เอาเขียว
เราจึงเห็นพืชเปนสีเขียว เพราะว่า คลอโรฟิล b เอาเฉพาะ ฟ้ากะแดงเท่านั้น
วัศดุทุกชนิดในโลกมีคุนสมบัติต่อแสง 3 ประการคือ 1 สะท้อน 2 ดูดกลืน 3 ยอมให้ผ่านทะลุออกไป
เมื่อเรามองไปที่ต้นไม้ พบว่า ต้นไม้มีสีเขียวแปลว่า ต้นไม้สะท้อน “สี” เขียว มากระทบตาเรา
ดังนั้น ตามหลักการ เมื่อต้นไม้สะท้อนสีเขียว แปลว่ามันไม่ต้องการสีเขียว จึงสะท้อนออกมา
ดังนั้น ถ้าเอา แสงมา แล้วกรอง สีเขียวออกไป เพราะพืชไม่ต้องการ
เราประหยัดตังเพียบเลย แต่แสงอาทิตย์ ฟรี ฟรี ฟรี ไม่จ่ายตัง
การปลูกพืชภายใต้แสงอาทิตยจึงถูกที่สุด เพราะไม่ต้องจ่ายค่าพลังงาน
เพราะดวงตามนุษย์ ไม่ได้ถูกออกแบบมนให้เห็น สี นั้นๆ
เราจึงต้องสร้างเครื่องมือเพื่อมาวัดหรือวิเคาะห์ สี ของแสง
เรียกว่า spectrometer เป็น เครื่องวัดสีนะคับ ไม่ใช่เครื่องวัดแสง
ถ้าเราจะวัดแสง ตือวัดว่า แสงมาก แสงน้อย
ซึ่งก็คือการวัด lux นั่นเอง
ซึ่งเครืรองวัด lux ไม่สามารถ แยกสีได้
ซึ่งปัจจัยในการทำให้พืชโต คือ สี ไม่ใช่แสง
พืชสะท้อนสีเขียว เราจึงคิดว่า พืชไม่ต้องการสีเขียวคงจะใช้ทุกสี ในการสังเคราะแสง
ซึ่งก็ว่า ฝรั่งนี้มันเก่งแท้
สามารถบอกได้ว่า สารเคมีในพืชเรียกว่าคลอโรฟินเนี่ย มันมีหน้าที่ในการเปน เซฟ ในการสร้างอาหารก็คือ แป้ง น้ำตาล อนุมูลอิสระ ธาตุร้อยแปดพันเก้า ที่ได้จากพืช
แล้ว คลอโรฟิลเนี่ย มันใช้พลังงาน “สี” ใน “แสง” เพื่อเอามาเป็นไฟในการปรุงอาหาร
การสังเคราะแสงคือการ “สร้าง”
แสงคือ เชื้อเพลิงในการ สร้าง เช่น สารสีส้มในพืชเรียกว่า คาโรทีนอย มีมากในแครอท (แคโรทีนอย)
มันก็เปนเชฟ ในการสร้างแคโรทีนอย เฉกเช่นเดียวกับ คลอโรฟิล ที่มีสีเขียวสร้างกิ่งสร้างใบนั่นเอง
