1. แพทย์และผู้ป่วยจะต้องวางแผนการรักษาร่วมกัน
โดยผู้ป่วยจะต้องทราบข้อมูลก่อนการรักษาด้วยสารสกัดกัญชา
อย่างละเอียดทั้งประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แล้วจึงลงนามยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
(informed consent โดยให้เก็บในเวชระเบียน 1 ชุด และให้ผู้ป่วยเก็บไว้ 1 ชุด และใบ ยส.5 เก็บไว้ที่เภสัชกร)
2.จ่ายยาโดยเภสัชกร/ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยที่มีใบอนุญาตด้านเวชกรรมไทย
-
ตรวจสอบการสั่งยาของแพทย์ในใบสั่งยา
-
จ่ายยาแก่ผู้ป่วย (ในแต่ละครั้งต้องไม่เกินปริมาณที่ใช้สำหรับ 30 วัน) พร้อมทั้งให้คำแนะนำอย่างละเอียดกับผู้ป่วยและญาติหรือผู้ที่ดูแลผู้ป่วย
3. ติดตามบันทึกอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้กัญชาทางการแพทย์
-
นัดหมายและติดตามประเมินผลการรักษาต่อเนื่องทุกราย
-
ติดตามและประเมินผลข้างเคียงหลังรับยาภายใน 3 วัน ผ่านทางโทรศัพท์หรือระบบออนไลน์
-
ติดตามประเมินผลลัพธ์และผลข้างเคียงการรักษาภายใน 1 เดือน ที่คลินิก และบันทึกผลการประเมินทุกครั้ง
-
หากพบว่าใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ไม่มีประสิทธิผล ไม่ได้ประโยชน์ตามที่มุ่งหวังภายใน 4-12 สัปดาห์ให้หยุดการรักษาด้วยกัญชา โดยค่อยๆ ปรับลดขนาดยาลง
-
กรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการไม่พึ่งประสงค์จากการใช้ยา ให้ลดหรือหยุดใช้และพบแพทย์เพื่อรักษาหรือแพทย์อาจส่งต่อผู้ป่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในกรณีที่จำเป็น และต้องรายงานภาวะแทรกข้อน/ผลข้างเคียงแก่หน่วยงานรัฐตามระบบ