ความรู้เรื่อง CBD/THC
เครดิตรูป : www.genengnews.com
-ค่าทั้งสองเป็นสัดส่วนกันตั้งแต่พืชเริ่มมีดอกจนดอกแก่
* ค่าทั้งสองเริ่มสร้างตั้งแต่พืชมีไตรโคมส์ (trichomes) เกิดขึ้นบนช่อดอกและใบอ่อน
-ค่าทั้งสองขึ้นกับสายพันธุ์ทางยีนและปัจจัยแวดล้อม
-ค่าทั้งสองจะสูงขึ้นไม่เท่ากันก่อนเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว
* ค่าทั้งสองมีปริมาณที่แตกต่างกันทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว
(กฎหมายวัดค่า THC ก่อนเก็บเกี่ยว 15 วัน)
-หากดึงค่า THC ใกล้เคียงหนึ่งจุดศูนย์; ค่า CBD ก็สูงตาม
(นักปรับปรุงพันธ์ุต่างประเทศ (0.3%) จึงอิจฉาไทย (1.0%)
เพราะความหลากหลายในการปรับปรุงพันธ์ุมีมากกว่ามาก)
* แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนสารตั้งต้น THCA และ CBDA (จากสารแม่ CBGA) ที่ถูกกระตุ้นให้เปลี่ยนเป็น THC และ CBD โดยส่วนมากตอนที่พืชสังเคราะห์สารตั้งต้นต้องใช้ความเย็น แต่พอจะเป็น THC หรือ CBD ต้องใช้ความร้อนสูง (ไล่ CO2 ออกไป) เป็นตัวกระตุ้น (decaboxylation)
{สูตรโมเลกุลของ THC และ CBD คือ C21H30O2; CBG คือ C21H32O2 (มีธาตุไฮโดรเจนมากกว่า 2 อะตอม; ส่วน THCA, CBDA, CBGA จะมี CO2 เพิ่มเข้ามาในสูตรโมเลกุล เช่น C22H30O4, C22H30O4, และ C22H32O4 ตามลำดับ}
สำหรับการเกิดสาร THC ในประเทศไทย เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมมีอุณหภูมิอากาศสูง ใกล้เส้นศูนย์สูตรและมีแสงแดดและ UV (ultraviolet ทั้ง B- burning และทั้ง A- aging) ที่มีความเข้มของแสง (light intensity) มากกว่าในประเทศแถบยุโรปและอเมริกา (ดูจากสีผิวของคนบ้านเรา สีเข้ม (สวยคมขำ) เพราะ UV) ที่ส่งผลต่อการสังเคราะห์ของสาร THC ในพืชได้มากกว่า หากใช้พันธ์ุพืชที่มีค่าสาร THC ขั้นต่ำราว 0.3-0.5 % (เป็นกันชน) ก็สามารถลดโอกาสในการปลูกเกินค่า 1.0% ทางกฎหมายได้
LINE ID: nvitoon
วิฑูร เนติวิวัฒน์
1 พ.ค. 64